หากแปรงฟันอยู่ดี ๆ แล้วมีเลือดติดอยู่บริเวณแปรงสีฟัน หรือบ้วนปากแล้วมีเลือดปนออกมาบ่อย ๆ นั่นอาจแสดงว่าคุณกำลังมีอาการเลือดออกตามไรฟันอยู่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการขาดวิตามินบางชนิด หรือ เป็นอาการเริ่มต้นของโรคเหงือกอักเสบและโรคในช่องปากก็ได้

สำหรับใครที่มีเลือดออกตามไรฟัน แล้วอยากรู้ว่าเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง? Welala ได้รวม 4 สาเหตุพบบ่อยที่ทำให้เกิดเลือดออกตามไรฟันมาให้แล้ว ใครที่สงสัยว่า เลือดออกตามไรฟันขาดวิตามินอะไร? หรือมีสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจมองข้ามอีกบ้างไหม หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลย
รวม 4 สาเหตุเลือดออกตามไรฟันที่หลายคนอาจมองข้าม
เลือดออกตามไรฟันเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของช่องปาก ซึ่งหลายคนมักมองข้ามกัน กว่าจะรู้ตัวอีกที อาการเลือดออกตามไรฟันก็พัฒนาไปเป็นโรคเหงือกอักเสบ หรือโรคในช่องปากอื่น ๆ แล้ว โดยสาเหตุที่ทำให้เลือดออกตามไรฟันที่พบบ่อย มีดังนี้
1. แปรงฟันแรงเกินไป หรือแปรงฟันผิดวิธี

การแปรงฟันอย่างถูกวิธี เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม และยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพฟันและช่องปากที่ดี
อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่ยังแปรงฟันผิดวิธี เช่น
- เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแข็งและแปรงแรง ๆ เพื่อให้ฟันสะอาด จนทำให้เกิดอาการเหงือกร่น เหงือกอักเสบ
- ใช้ยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยเคลือบฟันให้แข็งแรง ป้องกันไม่ให้ฟันผุ หรือเป็นรู จนทำให้ผิวเคลือบฟันไม่แข็งแรง
- ไม่ใช้ไหมขัดฟันหลังจากแปรงฟัน ทำให้ยังมีเศษอาหารตกค้างอยู่บริเวณซอกฟันที่ทำความสะอาดได้ยาก จนกลายเป็นคราบหินปูน และทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบและโรคฟันผุได้
การที่เราแปรงฟันไม่ถูกวิธี ก็จะทำให้ฟันและช่องปากไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดีพอ จนส่งผลให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียต่าง ๆ และนำมาสู่การเป็นโรคในช่องปากจนทำให้เกิดอาการเลือดออกตามไรฟันได้นั่นเอง
2. ขาดวิตามินซี

เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของเลือดออกตามไรฟันที่พบได้บ่อยเช่นกัน โดยเฉพาะในเด็ก หรือผู้ใหญ่ที่ไม่รับประทานผักและผลไม้ โดยการขาดวิตามินซีจะทำให้ร่างกายเป็นโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งจะทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง และมีเลือดออกตามไรฟันได้ง่าย
โรคลักปิดลักเปิดนั้นเป็นโรคที่ค่อนข้างอันตราย ถ้าหากผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่ไม่ได้รับการรักษา และปล่อยให้ร่างกายของตัวเองขาดวิตามินซีอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะทำให้เกิดอาการเลือดออกตามไรฟันแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงอื่น ๆ ตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็น ฟันโยก ตาโปน หรือเลือดออกใต้ผิวหนัง
สำหรับใครที่สงสัยว่าตนเองมีแนวโน้มในการขาดวิตามินซี รวมไปถึงวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็นในร่างกาย คุณสามารถตรวจร่างกายด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ โดยการสั่งชุดตรวจ Vitamin DNA จาก Welala ไปตรวจเองที่บ้านได้เลย เก็บตัวอย่างทางน้ำลาย ไม่ต้องเจาะเลือด และให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ!
3. ติดเชื้อภายในเหงือก

สาเหตุของการติดเชื้อภายในเหงือกนั้น เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากคราบพลัค โดยจะทำให้เกิดการอักเสบของเหงือก ฟัน เนื้อเยื่อเหงือก และกระดูกที่ช่วยพยุงฟัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีอาการเลือดออกตามไรฟันเป็นระยะแรก ๆ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาก็จะทำให้เกิดอาการฟันโยก ฟันหลุด หรือร้ายแรงจนถึงขั้นต้องถอนฟันซี่นั้นออกได้เลย
คราบพลัคนั้น เป็นแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่มีลักษณะเหมือนกับแผ่นฟิล์มเหนียว ๆ ไร้สี ก่อนที่จะค่อย ๆ เกาะรวมตัวกันบนผิวฟัน ซึ่งการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันปกติไม่สามารถขจัดคราบออกได้หมด จำเป็นที่จะต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการขูดหินปูนออกเท่านั้น
ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากติดเชื้อภายในเหงือกจนทำให้เกิดอาการเลือดออกตามไรฟัน ฟันโยก หรือฟันหลุด ก็ควรจะหมั่นไปขูดหินปูนและตรวจสุขภาพฟันและช่องปากกับทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน หรือ 1 ปี
4. เกล็ดเลือดต่ำ

เกล็ดเลือดต่ำ เป็นภาวะที่ร่างกายมีจำนวนเกล็ดเลือดต่ำกว่าค่าปกติ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น เช่น ไขกระดูกสร้างเกล็ดเลือดได้ลดลง เกล็ดเลือดถูกทำลายจากสาเหตุต่าง ๆ หรือเป็นโรคที่สร้างภูมิต้านทานทำลายเกล็ดเลือด
ผลที่ตามมาของการมีเกล็ดเลือดต่ำคือ จะทำให้มีอาการเลือดออกจากเยื่อบุช่องปาก มีจุดเลือดออก หรือจุดจ้ำเลือดตามร่างกาย โดยที่ไม่ได้รับการกระทบกระแทก มีเลือดออกตามอวัยวะต่าง ๆ หรือปัสสาวะเป็นเลือด ถ้าหากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที
แนะนำวิธีป้องกันเลือดออกตามไรฟันง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็ทำได้
สำหรับใครที่มีอาการเลือดออกตามไรฟัน นอกจากการไปพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการขูดหินปูน และตรวจสุขภาพฟันและช่องปากที่จะต้องทำตามปกติอยู่แล้ว เรายังมีวิธีป้องกันเลือดออกตามไรฟันง่าย ๆ มาฝากด้วย สามารถนำไปทำตามได้เลย!
- รับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะขามป้อม หรือลิ้นจี่ เป็นต้น
- ควรแปรงฟันให้ทั่วทั้งช่องปาก และซอกฟัน
- หลังจากที่แปรงฟันเสร็จแล้วจะต้องใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดในบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึงด้วย
- ควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม และเปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างน้อยทุก ๆ 2 เดือน
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- ระมัดระวังไม่ให้เครียดจนเกินไป เพราะความเครียดสามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกายและทำให้เลือดออกตามไรฟันได้
- งดการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคในช่องปาก
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 4 สาเหตุที่ทำให้เลือดออกตามไรฟัน และวิธีป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ที่เรานำมาฝากในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยคลายข้อสงสัยเลือดออกตามไรฟันขาดวิตามินอะไร และทำให้คุณรู้จักวิธีดูแลสุขภาพฟันและช่องปากของตนเองอย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น