โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นโรคที่เมื่อเป็นแล้วจะต้องรีบเข้ารับการรักษา เพราะไม่อย่างนั้นก็อาจนำไปแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น หรือทำให้อาการรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้ แล้วโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีอะไรบ้าง? เกิดจากสาเหตุใด? จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น? WELALA จะพาคุณไปหาคำตอบเองที่บทความนี้
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คืออะไร?
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexual-Transmitted diseases) คือ โรคติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้มีเชื้อและผู้รับเชื้อ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ปาก หรือทวารหนัก ปัญหาของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือ การขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองจากการติดโรค รวมทั้งการเพิกเฉยและอายที่จะเข้ารับการรักษา ทำให้โรคลุกลามเกินกว่าจะรักษาให้หายได้ทันเวลา
สาเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
สาเหตุของการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ
- เชื้อไวรัส ได้แก่ หูดหงอนไก่ (Papilloma Virus หรือ HPV), เริม (Herpes Simplex), เอดส์ (HIV)
- เชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ ซิฟิลิส (Syphilis), หนองในแท้ (Gonorrhea), หนองในเทียม (Chlamydia)
- เชื้ออื่น ๆ ได้แก่ พยาธิ (Trichomonas), เชื้อรา (Candida)
อาการแบบไหน เสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
อาการของผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถเป็นได้หลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่มักพบอาการดังต่อไปนี้
- ปัสสาวะแสบขัด
- ตกขาวผิดปกติ เป็น ๆ หาย ๆ มีกลิ่น มีอาการคัน
- มีตุ่ม ผื่น หรือแผล บริเวณอวัยวะเพศ
- ขาหนีบบวม
5 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย ได้แก่
1. โรคหูดหงอนไก่
หูดหงอนไก่ เกิดจากเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัส หากมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงอาจจะไม่แสดงอาการใด ๆ แต่หากภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงจะเกิดเป็นติ่งเนื้อสีชมพูคล้ายหงอนไก่ บริเวณที่อุ่นหรืออับชื้น เช่น อวัยวะเพศ ช่องคลอด ทวารหนัก หรือบริเวณง่ามขา
2. โรคซิฟิลิส
เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Treponema Pallidum สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ อาการจะแตกต่างกันตามระยะของโรค ตั้งแต่มีแผลที่อวัยวะเพศ มีผื่นขึ้นตามลำตัว ตลอดจะไม่มีอาการเมื่อโรคเข้าสู่ระยะสงบ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจเกิดการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ ซึ่งรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
3. โรคเริม
เกิดจากเชื้อไวรัส Herpe Simplex สามารถติดต่อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่เป็นโรค โดยผู้ที่เป็นโรคเริมจะมีตุ่มน้ำใสบริเวณริมฝีปาก อวัยวะเพศ ร่วมกับอาการปวดแสบ และคันบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก
4. โรคหนองในแท้
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria Gonorrhoeae ซึ่งสามารถเติบโตในพื้นที่ที่มีความอุ่นและชื้น เช่น ปากมดลูก มดลูก ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก รวมทั้งบริเวณปากและลำคอ ผู้ชายจะมีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองข้นไหลออกจากปลายท่อปัสสาวะ ส่วนผู้หญิงจะมีอาการตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแล้วรู้สึกเจ็บแสบ โรคหนองในแท้สามารถติดจากแม่สู่ทารกระหว่างการคลอดได้
5. โรคไวรัสตับอักเสบบี
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดบี ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย การใช้เข็มฉีดยา แปรงสีฟัน มีดโกนร่วมกัน รวมทั้งสามารถติดต่อจากมารดาสู่ทารกขณะคลอดได้ โดยผู้ติดเชื้อจะมีอาการตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะเหลืองเข้ม ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย
ใครเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ผู้ที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
- ผู้ที่ไม่สวมถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- ผู้ที่เคยมีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รักษาหายขาดได้หรือไม่
โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสบางชนิดรักษาหายได้ แต่บางชนิดจะแฝงตัวในร่างกายตลอดชีวิตและสามารถกำเริบหรือเป็นซ้ำได้อีก ส่วนโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และเชื้ออื่น ๆ สามารถรักษาหายได้ด้วยยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่ง
วิธีป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
- ไม่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เสี่ยงโรค
- รักษาความสะอาดร่างกายและอวัยวะเพศ
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถเปลี่ยนรักหวานชื่นกลายเป็นขมในชั่วข้ามคืน หากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีความเสี่ยง ไม่ควรเพิกเฉย ควรรีบพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยอย่างใกล้ชิด หรือคัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเอง โดยใช้ชุดตรวจ HPV Test จาก WELALA เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสที่พบบ่อยในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างเชื้อ HPV DNA ในช่องคลอดตรวจง่ายและแม่นยำ แม่นยำ 99.6% เทียบเท่ากับไปตรวจที่โรงพยาบาล ช่วยให้สามารถป้องกันและรักษาเชื้อ HPV ได้ทันท่วงที ก่อนที่เชื้อจะพัฒนาเป็นมะเร็งในอนาคต เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและคนที่คุณรัก